โทรหาบริษัทประกันก่อนเลยครับ เพื่อแจ้งเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นที่ไหน อย่างไร ระแวกบ้านเรามีกล้องวงจรปิดที่สามารถเปิดดูได้ไหมว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นเมื่อไหร่ จากนั้น
ไปสถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่ารถของเราโดนชนอย่างไร เมื่อไหร่ (ถ้าเรารู้เวลา) ซึ่งการตามเรื่องจะมี 2 แบบครับ คือ
![](https://static.wixstatic.com/media/90c5ad_a1938a79b9aa4e6e832be08a215f09bc~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_742,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/90c5ad_a1938a79b9aa4e6e832be08a215f09bc~mv2.jpg)
1.เมื่อเรารู้เลขทะเบียนของคู่กรณี ถ้าเรารู้เลขทะเบียนของคู่กรณีก็แจ้งความไปเลยตามข้อเท็จจริงครับ แล้วหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการแจ้งคู่กรณีให้มารับข้อกล่าวหา หลังจากนั้นเราต้องไปยืนยันเรื่องราวทั้งหมดที่สถานีตำรวจอีกรอบ 2.เมื่อเราไม่รู้เลขทะเบียนของคู่กรณี แบบที่สองนี้เสียเงินค่าเอ็กเซส (Excess) ด้วยครับ เพราะจะกลายเป็นการเกิดอุบัติเหตุแบบที่เราระบุคู่กรณีไม่ได้ ค่าเสียหายส่วนแรก ที่มีคำที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 คำ คือ ดีดักทิเบิล (Dedutible) และะเอ็กเซส (Excess) ซึ่งทั้งคู่แปลว่า ค่าเสียหายส่วนแรกเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกันนะครับ ดีดักทิเบิล (Dedutible)
เป็นค่าเสียหายส่วนแรกที่เราสมัครใจจ่ายเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นและเราเป็นฝ่ายผิดเท่านั้น ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมถึงอยากจ่ายเงินเองก็เพราะว่าเราจะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ซึ่งมีแค่ในประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นตามค่าความเสียหายที่เราเลือกครับ เริ่มตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท (นั่นหมายความว่าเราก็ได้รับส่วนลด 1,000-5,000 บาทด้วยเช่นกัน) เอ็กเซส (Excess)
คำนี้ออกเสียงกันผิดประจำ (จะแอ็กแซปหรือแอ๊กเซสก็ไม่ใช่ทั้งคู่นะฮะ) ซึ่งเป็นค่าความเสียหายส่วนแรกที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ที่ไม่ได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น บอกไม่ได้ว่ารถใครมาชนรถเราของประกันทุกชั้น หรือไม่รู้ว่าริ้วรอยต่างๆ บนรถของเราเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ในประกันชั้น 1 ส่วนมากเจอกันตอนแจ้งเคลมแห้งแล้วบริษัทประกันเรียกเก็บเงินเพิ่มเข้ามา เริ่มที่ 2,000 บาทต่อครั้งของอุบัติเหตุครับ
![](https://static.wixstatic.com/media/90c5ad_a639b0b1ccac4247905adc8c3221d879~mv2.png/v1/fill/w_980,h_980,al_c,q_90,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/90c5ad_a639b0b1ccac4247905adc8c3221d879~mv2.png)
ต้องตรวจสอบว่าประกันภัยที่ทำอยู่นั้นคุ้มครองอะไรบ้าง
การคุ้มครองประกันภัยแต่ละชั้น
ประกันชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี สบายใจหายห่วงได้ ประกันชั้น 2+ ราคาถูกลงมานิด แต่ก็ยังคุ้มครองการชนแล้วหนี แต่เราจะต้องมีข้อมูลของคู่กรณี เช่นเลขทะเบียน ซึ่งเราอาจจะต้องใช้หลักฐานจากกล้องหน้ารถมาช่วยอีกแรง
ประกันชั้น 2 ไม่ครอบคลุมการชนแล้วหนี ต้องเสียทรัพย์ซ่อมกันเองนะครับ
ประกันชั้น 3+ อุ่นใจได้เลย เพราะประกันประเภทนี้คุ้มครองการชนแล้วหนีด้วยครับ
ประกันชั้น 3 ใครทำประกันชั้นนี้ อาจจะเหนื่อยหน่อย เพราะต้องออกค่าซ่อมเองนะครับ ไม่ได้ครอบคลุมการชนแล้วหนี เมื่อตรวจสอบประเภทประกันของเราแล้ว ถ้าประกันของเรามีการคุ้มครองเรื่องชนแล้วหนี หลังจากนั้นก็ให้ติดต่อบริษัทประกัน และแจ้งกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมยื่นหลักฐานเป็นใบแจ้งความ แค่นี้ก้เสร็จแล้วครับ แต่ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องประกัน หรือประกันหมด คุณสามารถเข้ามาซื้อประกันรถทุกประเภทที่ sp broker
Comments