ทุกวันนี้นอกจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นหลักแล้ว ปัจจุบันยังมีพลังงานทางเลือกอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถนำมาทดแทนในส่วนนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนากันอยู่ในขณะนี้ แต่ทางเลือกอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้ในบ้านเราก็คือ “รถติดแก๊ส” เนื่องจากช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากนั่นเอง
ซึ่งหากรถยนต์ของคุณมีการดัดแปลงเพื่อติดตั้งระบบแก๊ส LPG หรือ NGV ในภายหลัง คุณควรแจ้งบริษัทประกันให้รับทราบด้วย เพราะหากคุณไม่แจ้งให้บริษัทประกันภัยรับทราบถึงการติดตั้งถังแก๊ส ความเสียหายของถังแก๊สรวมถึงอุปกรณ์เกี่ยวกับการติดตั้งถังแก๊สต่าง ๆ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือไม่สามารถเคลมกับประกันภัยได้นั่นเอง
![](https://static.wixstatic.com/media/90c5ad_96316332278c4c26a06295070d0db81a~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_789,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/90c5ad_96316332278c4c26a06295070d0db81a~mv2.jpg)
แต่ประกันรถยนต์แต่ละประเภท ก็มีทั้งแบบคุ้มครอง และไม่คุ้มครองถึงตัวรถเรา เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่า ว่าประกันประเภทไหนให้ความคุ้มครองรถเราหรือไม่ อย่างไร ?
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 , 2 , 2+
เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น คุณมั่นใจได้เลยว่ารถของคุณนั้นจะได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นอน เพราะประกันภัยเหล่านี้ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งกรณีรถชน สูญหาย และไฟไหม้ ฯลฯ
ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 , 3+
ประกันประเภทนี้จะไม่คุ้มครองรถไฟไหม้ทุกกรณี แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายถูก คุณสามารถเรียกเคลมจากบริษัทประกันของคู่กรณีได้
![](https://static.wixstatic.com/media/90c5ad_edf527114e8441af990e415ff46ceb25~mv2.jpg/v1/fill/w_512,h_339,al_c,q_80,enc_auto/90c5ad_edf527114e8441af990e415ff46ceb25~mv2.jpg)
สุดท้ายนี้ เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง หากนำรถยนต์ไปติดตั้งระบบแก๊ส ไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV ควรแจ้งบริษัทประกันก่อนทำประกันภัยทุกครั้ง
Comments