top of page
ค้นหา

เคลมประกันรถ หลังถูกน้ำท่วมหนัก ทำอย่างไร?

อัปเดตเมื่อ 3 ธ.ค. 2563

วิธีเคลมประกันรถกระบะหลังถูกน้ำท่วมหนัก ทำอย่างไร?


ฝนตกน้ำท่วมถือเป็นปัญหาที่คนไทยทุกคนต่างต้องประสบพบเจออย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือความเสี่ยงที่อาจเกิดซึ่งสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน และข้าวของเครื่องใช้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายแสนสาหัสเช่นกัน


เหตุการณ์ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ่งเป็นปัญหาเกี่ยวกับอุทกภัยทางธรรมชาติด้วยและไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการป้องกัน รวมถึงวิธีการบำรุงรักษา เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาในทุกสถานการณ์ spbroker มีข้อมูลเกี่ยวกับการรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถมาบอก ดังนี้






โทรแจ้งประกัน

ลำดับแรกที่ควรทำคือโทรหาบริษัทประกันเพื่อตรวจเช็คกรมธรรม์ที่ทำไว้ ว่าให้ความคุ้มครองในกรณีที่เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งหากให้การคุ้มครองก็สามารถแจ้งเคลมประกันได้


ห้ามต่อขั้วแบตรถยนต์เด็ดขาด

หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรทำคือการถอดขั้วแบตออกให้หมด และห้ามต่อขั้วแบตรถยนต์เป็นอันขาด เนื่องจากการที่น้ำท่วมรถอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร 


ล้างรถให้สะอาด

เมื่อน้ำลดลงให้รีบทำความสะอาดรถยนต์เป็นการด่วน รวมถึงถอดเบาะรถออกมาเช็ด จากนั้นเปิดประตูทุกบานทิ้งไว้เพื่อผึ่งให้แห้ง หรือจอดตากแดด แต่หากต้องการความสะอาดให้หมดจด โดยไม่มีล่องลอยของคราบสกปรก SP BROKER ขอแนะนำให้เอารถเข้าคาร์แคร์จะเป็นการดีที่สุดครับ


นำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คให้ละเอียด

เพื่อความสบายใจของเจ้าของรถ หลังจากที่น้ำลดลงแนะนำให้รีบเอารถเข้าศูนย์ โดยให้ผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจเช็คอย่างละเอียด พร้อมทั้งประเมินอาการว่าได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญคือควรเปลี่ยนของเหลวภายในเครื่องยนต์ใหม่ทั้งหมด



สำหรับผู้ที่ขับรถกระบะแล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตื่นเช้าขึ้นมาก็พบว่ารถยนต์แสนรักถูกน้ำท่วมมิดคัน! อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป โดยขั้นแรกแนะนำให้ตรวจเช็คกรมธรรม์ประกันรถยนต์ที่ทำไว้ ซึ่งประกันที่ให้ความคุ้มครองในกรณีที่น้ำท่วมรถคือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1


ส่วนประกันชั้น 2+ กับ 3+ ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์ว่ามีการระบุเกี่ยวกับการคุ้มครองค่าความเสียหายในกรณีที่น้ำท่วมรถหรือไม่ ...


อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าภัยพิบัติจากธรรมชาติเป็นสิ่งที่คาดเดาได้อยาก เพราะฉะนั้นควรเตรียมพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ขั้นตอนขอเคลมประกันรถยนต์ในกรณีที่น้ำท่วมรถ โดยมีรายละเอียด ดังนี้


  1. ถ่ายรูปรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม โดยต้องถ่ายให้เห็นเลขทะเบียน เพื่อเป็นหลักฐานว่าคือรถคันเดียวกันกับที่เอาประกัน

  2. ถ่ายรูปความเสียหายภายในรถ รวมถึงทำการบันทึกภาพเพื่อจะได้เห็นเวลา และสถานที่ที่เกิดเหตุน้ำท่วม

  3. ตรวจสอบกรมธรรม์ รวมทำความเข้าใจกับเงื่อนไขต่างๆ ที่จะได้รับ

  4. แจ้งทำเคลมทางโทรศัพท์กับบริษัทประกันภัย

  5. ทำการนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ประกัน เพื่อตรวจสอบความเสียของรถยนต์ และเตรียมส่งซ่อม

  6. หากรถยนต์ไม่สามารถวิ่งได้ สามารถขอให้ทางบริษัทประกันส่งรถมาลากไปได้ ซึ่งทางบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่ารถยกลากไม่เกิน 20% ของค่าซ่อม

  7. เมื่อนำรถเข้าอู่เป็นที่เรียบร้อย ให้เก็บใบรับรถเอาไว้ รวมถึงหมั่นไปตรวจสอบสภาพรถ เผื่อหากเกิดกรณีที่อู่ซ่อมรถล่าช้า หรือบริษัทประกันประวิงเวลาโดยไม่มีเหตุผลอันควร สามารถเรียกร้องค่าขาดการใช้รถได้


ทั้งนี้ทั้งนั้น ความคุ้มครองของประกันภัยรถยนต์ในกรณีที่เกิดน้ำท่วมรถ แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้


การสูญเสียโดยสิ้นเชิง

เป็นกรณีที่น้ำท่วมรถมิดคัน พร้อมทั้งสร้างความเสียหายแก่ภายตัวรถทั้งภายใน และภายนอก รวมถึงเครื่องยนต์ ทางบริษัทจะประเมินว่าไม่คุ้มที่จะซ่อมให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้ดีดังเดิม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บริษัทประกันยังคงต้องจ่ายเงินให้ตามทุนประกันที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์ 100%


ความเสียหายบางส่วน

ในกรณีที่เกิดเหตุน้ำท่วมรถแต่ไม่หนักมาก โดยยังสามารถซ่อมรถให้มาใช้งานได้ดีดังเดิม ทางบริษัทประกันจะตีให้เป็นค่าความเสียหายบางส่วน ซึ่งค่าซ่อมแซมทั้งหมดทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องไม่เกินจำนวนทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และหากมีค่าใช้จ่ายการซ่อมแซมที่เกินทุนประกัน ผู้เอาประกันต้องเป็นฝ่ายออกเอง





ดู 36 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page